แต่มีใครจะทราบไหมว่า ประโยชน์ของทุเรียนนั้นมีมากมายมหาศาล
ประโยชน์ของทุเรียนสามารถเป็นสรรพคุณทางยาดังนี้
เนื้อทุเรียน : เนื้อทุเรียนมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ร้อน โดยความร้อนนี้จะช่วยแก้โรคผิวหนังได้ ทำให้ฝีหนองแห้งเร็ว และมีฤทธิ์ขับพยาธิ
เปลือก : เปลือกแข็งด้านนนอกที่มีหนามแหลม เมื่อนำไปสับแช่ในน้ำปูนใส แล้วสามารถใช้สมานแผลได้ เอามาล้างแผลพุพอง แผลน้ำเหลืองเสียจะช่วยให้แผลหายเร็ว
ใบทุเรียน: เอาใบทุเรียนไปต้มกับน้ำแล้วเอาน้ำนั้นมาอาบ ความร้อนจะช่วย ให้หายไข้และโรคดีซ่านได้
ราก: ตัดเป็นข้อๆ ใส่หม้อต้มให้เดือด นำมาดื่มรักษาอาการท้องร่วงได้ดี และสารสกัดจากใบและรากทุเรียนใช้เป็นยาแก้ไข้ได้ ด้วยการใช้น้ำจากใยวางบนศีรษะของผู้ป่วยจะช่วยลดไข้ดี
ทุเรียนแปรรูป
-เนื้อทุเรียน : นำมาทำเป็นอาหารได้ทั้งคาวและหวาน นำมาแปรรูปเป็นขนมหวานได้หลายชนิด เช่น ขนมไหว้พระจันทร์, ขนมปังสอดไส้, ไอศกรีม, มิลก์เช็ก, เค้ก, คาปูชิโน, ข้าวเหนียวทุเรียน,ทุเรียนแช่อิ่ม, ทุเรียนกวน, ทุเรียนทอดกรอบ, แยมทุเรียน ฯลฯ
-ใบอ่อนหรือหน่อของทุเรียน : สามารถนำมาใช้ทำอาหารบางอย่างคล้ายกับผักใบเขียวได้เช่นกัน
-ดอกทุเรียน : นำไปทำห่อหมก แกงส้ม ห่อขนมมจีบได้
-เมล็ดของทุเรียน : สามารถรับประทานได้มานำมาทำให้สุกด้วยวิธีการคั่ว การทอดในน้ำมันมะพร้าว หรือการนึ่ง โดยเนื้อในจะมีลักษณะคล้ายกับเผือกหรือมันเทศแต่เหนียวกว่า
-เปลือกทุเรียน : สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในรวมควันปลา และ ใช้ไล่ยุงหรือแมลงได้ด้วย อีกทั้งเปลือกสามารถนำมาผลิตทำเป็นกระดาษได้ กระดาษเปลือกทุเรียนมีเส้นใยเหนียวนุ่มและเหนียวกว่าเนื้อกระดาษสา โดยกระดาษเปลือกทุเรียนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง ทั้งในรูปของใช้เบ็ดเตล็ด ของประดับตกแต่ง นอกจากนี้เปลือกทุเรียนยังสามารถใช้เป็นพลังงานและ/หรือ เป็นปุ๋ยได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก
www.durainnon.com