image alt image alt

บทความ

10 อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ดีที่สุดในโลก

10 อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ดีที่สุดในโลก

การรับประทาน อาหารเพื่อสุขภาพ ของกลุ่มผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลังจากที่มีข่าวโรคที่เกิดจากการกินอาหารผิดวิธี และอาหารบางชนิดที่ก่อเกิดโรค หากไม่ดูแลเรื่องที่มาของอาหาร หรือแม้แต่การกินอาหารตามใจปากก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ อาทิ โรคอ้วน โรคท้องร่วง โรคขาดสารอาหาร ฯลฯ

ปัจจุบันนี้พบว่ากลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารการกินมากขึ้น และเน้นอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารประเภทคลีนเป็นหลัก (ซึ่งอาหารคลีนที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ตอนนี้ติดเทรนด์ไปแล้ว) เนื่องจากเป็นอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ไม่มีสารพิษ และยังช่วยในส่วนของการควบคุมน้ำหนัก

สำหรับใครที่กำลังสนใจที่รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพทางเราก็อยากจะแนะนำ 10 อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งประกอบไปด้วย  เลมอน, ผักคะน้า, มันเทศ, อะโวคาโด, บร็อคโคลี่, ถั่ว, ถั่วฝักยาว, ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, ผักโขม

เลมอน

เลมอนมีปริมาณวิตามินซีสูงเส้นใยที่ละลายน้ำได้และสารประกอบพืชที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เลมอนอาจช่วยลดน้ำหนักและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโรคโลหิตจางนิ่วในไตปัญหาทางเดินอาหารและมะเร็ง เลมอนไม่เพียง แต่เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติและกลิ่นที่ดีอีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของเลมอน
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันหวัด
  • เลมอนมีสารที่ช่วยต่อต้านมะเร็งอยู่หลายชนิด
  • ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  • มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
  • น้ำเลมอนช่วยบำรุงตับและกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติตลอดทั้งวัน
  • ช่วยทำความสะอาดลำไส้ กำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้

ผักเคล

ราชินีแห่งผักใบเขียวนี้ได้รับความนิยามมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงกับมีผู้ขนานนามเจ้าคะน้าใบหยักนี้ว่า ‘The new beef’ หรือเนื้อรูปแบบใหม่ เพราะความไม่ธรรมดาที่ไม่ได้อัดแน่นสารต้านอนุมูลอิสระเหมือนผักอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยธาตุเหล็กในปริมาณมาก ถึงขนาดที่เนื้อสัตว์ยังสู้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแคลเซียมสูงกว่านมวัวถึง 3 เท่า และสูงกว่าผักโขมถึง 14 เท่า อีกทั้งแคลอรีต่ำ มีไฟเบอร์สูง ไม่มีไขมัน

คุณค่าทางอาหารของผักเคล
  • มีแคลเซียม มากกว่า นม ช่วยบำรุงกระดูกเหมาะสำหรับคนแพ้นมวัว
  • วิตามิน K ช่วยสร้างความแข็งแรงของกระดูก
  • วิตามิน C มากกว่าผักโขม 10%
  • มีธาตุเหล็ก มากกว่า เนื้อวัว
  • มีกรดไขมัน Omega 3 ช่วยลดคอเลสเตอรอล
  • แคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ
  • มีโฟเลต และวิตามินบีช่วยบำรุงสมอง
  • ค่าสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่าแครนเบอร์รี่ที่ 1,750 ตามค่า ORAC ของ USDA

มันเทศ

มันเทศเป็นพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีรสหวาน มีเนื้อในหลากสีสันตามสายพันธุ์ เช่น สีส้ม สีขาว สีแดง สีเหลือง หรือสีม่วง เป็นต้น ในมันเทศมีเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ โดยมันเทศจะมีรสหวานยิ่งขึ้นเมื่อเก็บไว้เป็นเวลานานหรือนำไปปรุงอาหาร  วิธีประกอบอาหารส่วนใหญ่ที่คนนิยม คือ นำไปต้ม นึ่ง อบ หรือทอดด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ผู้คนจึงเชื่อว่ามันเทศอาจมีผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน

คุณค่าทางอาหารของมันเทศ
  • รักษาภาวะขาดวิตามิน เอ
  • ป้องกันอาการท้องผูก
  • รักษาโรคเบาหวาน
  • รักษาและป้องกันโรคมะเร็ง
  • ป้องกันภาวะตับอักเสบ

อะโวคาโด

ผลอะโวคาโดอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย เมื่อทานบ่อยๆ จึงสามารถบำรุงและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ดี แถมยังสามารถป้องกันโรคร้ายบางโรคได้อีกด้วย

คุณค่าทางอาหารของอะโวคาโด
  • ลดความอ้วน
  • เต็มไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารจำเป็น
  • ป้องกันโรคหัวใจ
  • ลดไขมันในเส้นเลือด
  • มีวิตามินหลายชนิด
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • โปรตีนสูง

บร็อคโคลี่

บร็อคโคลี่ เป็นผักที่นิยมรับประทานกันมาก จัดอยู่ในกลุ่มดอกกะหล่ำ มีลักษณะเป็นดอกสีเขียวเข้ม มีรสชาติหวานกรอบ ไม่ขม สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง มีรสชาติหวานกรอบ บล็อกโคลี่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี6 วิตามินบี12 วิตามินดี แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก เบต้าแคโรทีน ลูทีน แคโรทีนอยด์ โฟเลต มีสารซัลโฟราเฟนและสารอินดอลซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย

คุณค่าทางอาหารของบล็อกโคลี่
  • บำรุงหัวใจ
  • ช่วยในการบำรุงสายตา
  • ลดการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
  • ปกป้องผิวจากมะเร็งผิวหนัง
  • ป้องกันการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม

ถั่ว

ถั่ว เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่คนรักสุขภาพขาดไม่ได้ อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี เส้นใยอาหาร และกล่าวกันว่ามีสรรพคุณด้านสุขภาพมากมาย เช่น บำรุงหัวใจ รักษาและป้องกันโรคเบาหวาน ต้านมะเร็ง หรือลดน้ำหนัก ทั้งยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับถั่วชนิดอื่นๆ จึงเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่หากินง่ายและได้ประโยชน์ไปในตัว

คุณค่าทางอาหารของบล็อกโคลี่
  • ชะลอความแก่ชรา
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง
  • ช่วยลดความดันโลหิต
  • ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
  • มีวิตามินบีสูง
  • มีธาตุเหล็กสูง
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ
  • ลดคอเลสเตอรอล
  • ดีกับระบบย่อยอาหาร

ถั่วฝักยาว

ถั่วฝักยาว เป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย นิยมนำมาประกอบอาหารและรับประทานเป็นเครื่องเคียงแบบดิบๆ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะแคลเซียม โพแทสเซียมและวิตามินซี โดยถั่วฝักยาวสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและนำมารับประทาน

คุณค่าทางอาหารของถั่วฝักยาว
  • ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร
  • ป้องกันโรคมะเร็ง
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย
  • ป้องกันภาวะทารกพิการแต่กำเนิด
  • ช่วยบำรุงดวงตา

แซลมอน

ปัจจุบันการรับประทานเนื้อปลาแซลมอนเป็นเรื่องง่าย เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีจำหน่าย จะเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เจอปลาแซลมอนหั่นให้เรียบร้อยพร้อมรับประทานหรือจะเดินห้างก็จะเจอร้านอาหารญี่ปุ่นเรียงยาวให้เราเลือก นอกจากความอร่อยของปลาแซลมอนที่หนึบหนับ และหวานแบบธรรมชาติ คุณประโยชน์ของมันก็แจ๋วไม่แพ้กับรสชาติเหมือนกัน

คุณค่าทางอาหารจากปลาแซลมอน
  • ช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
  • ช่วยรักษาสุขภาพหัวใจ และระบบหลอดเลือด
  • รักษาสายตา และป้องกันโรคประสาทจอตาเสื่อม
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ในเด็กเล็ก
  • อุดมด้วยวิตามินดี ดีต่อร่างกาย
  • ช่วยให้นอนหลับลึก และหลับสนิทตลอดทั้งคือ

ซาร์ดีน

ปลาซาร์ดีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต ลดการอักเสบ ป้องกันโรคหัวใจ และลดน้ำหนัก ไม่น่าเชื่อว่าปลาตัวเล็กๆ แบบนี้จะมีประโยชน์ดีๆ อยู่เยอะมาก

 
คุณค่าทางอาหารของปลาซาร์ดีน
  • อุดมไปด้วยธาตุอาหารหลักๆ
  • รักษาระดับน้ำตาลในเลือด
  • เต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน
  • ปลาซาร์ดีนดีต่อกระดูก
  • ลดการอักเสบ
  • การป้องกันโรคหัวใจ
  • ช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก
  • ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
  • สุขภาพผิวดี
  • รักษาสุขภาพจิต

ผักโขม

ผักโขมอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด อาทิ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินเค และยังเป็นผักที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายด้วย นอกจากนี้ในผักโขมยังอุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และแมงกานีส ซึ่งถ้าร่างกายขาดสารเหล่านี้จะทำให้อ่อนแรง และกำลังในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายจะทำงานได้ไม่เต็มที่

 
คุณค่าทางอาหารของผักโขม
  • บำรุงสายตา
  • ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด, มะเร็งกระเพาะอาหาร
  • เสริมสร้างบำรุงกำลัง
  • ช่วยดับพิษในร่างกาย
  • บำรุงครรภ์ และบำรุงนม

ที่มา https://nobitter.life/2019/09/11/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3-10-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/