image alt image alt

บทความ

เกาะเต่า เกาะที่มีอะไรมากกว่าเต่า

เกาะเต่า เกาะที่มีอะไรมากกว่าเต่า

เนื่องจากผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาในช่วงเดือนสิงหาคม 2565   ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสท่องเที่ยวทะเลไทยมากนักเพราะส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ จะรู้จักอย่างมากก็แค่พัทยา ระยองและ หัวหิน แต่คราวนี้สัญญากับลูกๆไว้ว่าจะพาไปดำน้ำตื้น ที่ทะเลเมืองไทยของเรา

 การเดินทางไปเกาะเต่าไปได้หลายแบบ ทั้งเครื่องบิน, รสบัสและรถไฟ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องขึ้นเรือเพื่อไปที่เกาะเต่าการเดินทางอาจจะใช้เวลานานนิดนึง แต่นั่นคือเเสน่ห์ ยิ่งไปยากยิ่งสวยและน่าค้นหา

เมื่อเดินทางถึงเกาะแล้วพบว่านักท่องเทียวส่วนใหญ่เป็นคนยุโรป ช่วงนั้นเป็นช่วงไฮซีซั่นของเกาะพอดี คนไทยๆอย่างเราคือมีไม่ถึง 10% ความประทับใจตั้งแต่เรือเทียบท่าคือทะเลน้ำใสมากๆ ฝูงปลาเล็กปลาน้อยเป็นพันๆตัว ว่ายไปมาอยู่ที่ท่าเรือ ทำให้มีความอยากรู้ไปอีกว่าหาดทั้งหลายในเกาะจะสวยสมบูรณ์ขนาดไหนนะ

เมื่อถึงที่พัก เราก็ออกตะลุยหาดกันเลยคะ การเดินทางในเกาะนั้นแนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซค์ขับเอง เพราะ ไม่มีรถสาธารณะ และแท็กซี่จะเป็นแบบเหมาจ่าย ราคาค่อนข้างแพง

เกาะเต่ามีชายหาดให้ค้นหาเยอะมาก และแต่ละหาดก็มีความพิเศษในตัวเอง บางหาดเหมาะสำหรับดำน้ำ บางหาดเป็นแนวยาวสวยไว้เล่นน้ำและ นั่งเล่นริมทะเลมองดูพระอาทิตย์ตกซึ่งสวยมากๆเลยคะ ผู้เขียนเองก็ไม่ได้ไปครบทุกหาด จะเล่าเฉพาะที่ไปมานะคะ

หาดที่ไปคือ หาดจุลเจือ เป็นหาดเล็กๆมีความส่วนตัวสูง และ สามารถดำน้ำตื้นได้ด้วยคะ  ที่สำคัญหาดนี้มีวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยสงบมาก

แต่ถ้ามองหาหาดยาวๆ สำหรับเล่นน้ำ มีร้านอาหารหลากหลาย วิวต้นมะพร้าวสวยๆ เหมาะกับการถ่ายรูป ต้องหาดทรายรีเลยคะ เราสามารถนั่งทานอาหารอร่อยๆทั้งเมนูไทยและตะวันตก วิวพระอาทิตย์ตกก็สวยเช่นกัน ตอนกลางคืนมีโชว์เป่าไฟ ตามชายหาด สามารถสนุกได้ทั้งคืนกับบาร์ริมทะเล

มาถึงหาดที่ชอบที่สุดในทริปนี้ คือ อ่าวลึกคะ มีครบหมดทั้งเล่นน้ำบนหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำตื้นคลื่นไม่แรง และที่สำคัญรอบๆอ่าวทั้งสองด้าน สามารถดำน้ำตื้นได้ เต็มไปด้วยประการังและฝูงปลาทั้งหลาย แม้แต่ฉลามตัวเล็กๆก็ว่ายมาทักทายตลอดเลยคะ

คนส่วนใหญ่เมื่อมาถึงเกาะเต่า สิ่งทีเป็นที่หนึ่งเลยคือการดำน้ำ มีทั้งดำน้ำตื้นและ ลึก  ผู้เขียนเองได้มีโอกาสดำน้ำตื้นกับทัวร์ดำน้ำ ซึ่งสะดวกมาก เพราะ มีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบ เราไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลย อาหารกลางวันและอาหารว่าง น้ำดื่มมีพร้อมเลยค่ะ พนักงานมีความชำนาญ ทำงานได้มืออาชีพมากๆ

ในการดำน้ำตื้นรอบเกาะเต่าจะมีจุดใหญ่ๆอยู่ 5 ที่ แลัวแต่ละที่ก็มีเสน่ห์ของตัวเอง จะขอเล่าคร่าวๆนะคะ

  1. เกาะนางยวน เป็นเกาะเล็กๆใกล้กับเกาะเต่า มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลแหวกของเกาะนางยวนได้สวยเต็มตามากคะ หาดที่นี่ขาวสวยละเอียด ปะการัง และปลาว่ายเต็มไปหมด มีปลาหลายชนิดมากๆ และน้ำไม่ลึกจนเกินไปเหมาะมากสำหรับเด็กๆและคนที่เริ่มหัดดำน้ำ
  2. อ่าวมะม่วง ที่นี่เราจะได้เห็นฝูงปลาเป็นพันๆตัวว่ายไปมา พร้อมๆกัน ตื่นตาตื่นใจมากคะ ใครดำน้ำเก่งๆก็สามารถดำไปจนถึงฝูงปลาได้ ปลาจะว่ายหลบแหวกไปเป็นแถบๆดูละลานตามาก
  3. อ่าวหินวง เป็นอ่าวทีมีความสมบูรณ์ของประการังมากๆ เราจะได้เห็นแผงประการังใหญ่โตเท่าเตียงเลยคะ ต้องใช้เวลาหลายปีมากๆจึงจะโตได้เท่านี้ผู้เขียนรู้สึกโชคดีมากๆที้มีโอกาสได้เห็นธรรมชาติใต้ท้องทะเลไทยสมบูรณ์และรักษาไว้ได้ดีเช่นนี้
  4. อ่าวลึก มีปลาและประการังเยอะมาก มาครบทุกชนิดที่อยากเจอ สวยจนเหมือนเราไปดำน้ำอยู่ในอควาเรียมแห่งท้องทะเล ฝูงปลาทั้งหลายว่ายน้ำไปมา ดำรงชีวิตของพวกเค้าอย่างสงบสุข และสวยงาม แบบธรรมชาติที่สุด
  5. หาดเทียน หรือ อ่าวฉลาม คนที่นี้แนะนำว่าถ้าอยากเห็นฉลามให้มาตอนเช้า แต่เราไปตอนบ่าย จึงเห็นเต่าทะเลออกหาอาหารตามเศษปะการังใต้น้ำแทน เป็นเต่าที่มีความเซเลบนิตี้สูงมากคะ เธอสามารถว่ายน้ำกินอาหารอย่างชิลต่อหน้าฝูงคนที่ว่ายแวดล้อมไปมา ขนาดดำน้ำไปถ่ายรูปใกล้ๆก็ยังไม่หนีไปไหน ตัวใหญ่และใจดีมาก เป็นเสน่ห์ของเกาะสมชื่อเลยจริงๆ

การไปเที่ยวเกาะเต่าครั้งนี้เป็นการเปิดโลกทัศน์ของผู้เขียนมากคะ ทั้งความสมบูรณ์ของทะเลเมืองไทย ที่สวยจนชาวต่างชาติยอมใช้เวลาเดินทางเป็นวันๆหลายต่อ เพื่อมาชมความสมบูรณ์ของทะเลใต้น้ำซึ่งหาไม่ได้ในบ้านเมืองของเค้า ทำให้ผู้เขียนมีความภาคภูมิใจในประเทศตัวเองมาก สามารถยืดอกอวดเพื่อนๆต่างชาติได้เลยว่าทะเลไทยนั้นสวยติดอันดับโลกจริงๆ

และอีกเรื่องที่เป็นความรู้สึกใหม่ ที่ได้จากการดำน้ำ คือ การที่เราได้เห็นโลกใต้น้ำ ที่สงบสุข เหล่า ฝูงปลา ว่ายไปมาตามแนวปะการัง พวกเค้าดูมีชีวิตที่สมบูรณ์ ในโลกของเค้ามากๆ ว่ายน้ำไปมามีความสุขไม่ถือสา มนุษย์ที่ลงไปว่ายเยี่ยมเยือน ทำให้ผู้เขียนเกิดความรู้สึกผิดและเกรงใจขึ้นมาทันทีเลยค่ะ มนุษย์นี่ทั้งรบกวนโลกใต้น้ำโดยสร้างมลพิษไม่ว่าจะจากการปล่อยน้ำเสียและขยะต่างๆลงท้องทะเล ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน หรือ การจับปลาและสัตว์ทะเลในปริมาณที่เกินควรของระบบโซ่ห่วงอาหาร บ้างก็แค่ตกปลาเล่นเอาสนุก ทุกอย่างเหล่านี้เรากำลังทำร้ายโลกที่สวยงามของพวกเค้า แล้วในอนาคตลูกหลานของเราจะมีโอกาสได้เห็นความสวยงามใต้ท้องทะเลอย่างที่เราได้เห็นและทำลายกันเองไหมนะคะ  ผู้เขียนเองก็ถือโอกาสบอกลูกๆให้เข้าใจถึงหน้าที่ขอบเขตของมนุษย์ที่ควรทำเพื่อปกปักษ์รักษาโลกของเราให้สวยสงบอย่างนี้ตลอดไป เพราะ  ธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก และมีอำนาจมากพอที่จะทำลายล้างด้วยเช่นกันถ้าเราละเลยการดูแลรักษาที่สมควร

ผู้เขียน : VS 

ภาพ: VS