image alt image alt

บทความ

ต้นไม้ฟอกอากาศปลูกในบ้าน

ต้นไม้ฟอกอากาศปลูกในบ้าน

ว่าพืชบางชนิดสามารถกรองมลพิษเหล่านี้ได้

เบนซิน (Benzene) ที่พบได้จากหมึกพิมพ์ ผงซักฟอก สารชะล้างต่างๆ

ไตรคลอโรเอทิลีน (Trichloroethylene) พบในหมึกพิมพ์และสารเคลือบเงา

ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่พบได้จากกระดาษ

แอมโมเนีย (Toluene) ที่พบได้จากน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

โทลูอีน (Toluene) ที่พบได้จากน้ำยาขจัดคราบสี คราบน้ำมัน ทินเนอร์

คาร์บอนมอนนอกไซด์ (Carbon monoxide) ที่พบได้จากเครื่องจักรที่ใช้น้ำมัน

สไตรีน (Styrene) ที่พบในฉนวนสายไฟ แผ่นรองพรม และถ้วยน้ำดื่ม

 

กระบวนการตรึงสารพิษของต้นไม้เหล่านี้ เป็นวัฏจักรของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ต้นไม้ทุกต้นไม่ได้ดูดซับสารเหล่านี้ไปได้ทั้งหมด และในช่วงเวลา 1 วัน ก็จะมีกระบวนการดูดและคายก๊าซแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก่อนนำต้นไม้ฟอกอากาศไปวางในห้องต่างๆ ของบ้าน ต้องรู้จักลักษณะของต้นนั้นก่อน

 

บทความนี้เราจะนำเสนอ ตำเเหน่งเเละวิธีการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ ว่า ปลูกอย่างไรเเละควรวางไว้ตำเเหน่งไหนกันบ้้าง 

 

วิธีการวางต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน

ต้นไม้แต่ละพันธุ์ชอบแสงแดดและอากาศแตกต่างกัน ส่วนขั้นตอนการฟอกอากาศนั้น บางต้นดูดซึมผ่านใบ ระบบรากหลัก และรากอากาศ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงต้องเข้าใจธรรมชาติของพันธุ์ไม้ หากต้องการวางต้นไม้ไว้ในห้องนอน ควรเลือกขนาดกระถางที่เหมาะสมกับการยก เพื่อขนย้ายออกไปรับแดดได้บ้าง

 

เดหลี (Peace Lily ) ต้นไม้ในร่มที่ช่วยดูดซับและกำจัดสารเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน แอมโมเนีย ไซลีน โทลูอีน และสารมลพิษอื่น ๆ ในอากาศได้ มีอายุหลายปี สีขาวสวย มีกลิ่นหอม ความสูงประมาณ 40-70 เซนติเมตร ปลูกใส่กระถางสานเก๋ ๆ ไว้ในห้อง

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น

           สภาพแสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์ 

          การรดน้ำ : วันละ 1 ครั้ง หรือ 2 วันต่อครั้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 16-32 องศาเซลเซียสได้อย่างเหมาะสม

เบญจมาศ (Chrysanthemum) ไม้ดอกสีสันสดใสที่คนชอบปลูกในบ้าน มีส่วนช่วยในการกรองสารพิษอย่าง แอมโมเนียและเบนซีน ซึ่งเป็นสารพิษที่พบมากในพลาสติก ผงซักฟอก และกาว ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย มีหลายสายพันธุ์ มีขนาดเล็ก สูงประมาณ 75-80 เซนติเมตร ปลูกจนโตเต็มที่แล้วก็ตัดมาเสียบแจกันประดับตกแต่งบ้านหรือห้องพักได้อีกด้วย

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : กลางแจ้ง ริมระเบียง หรือปลูกในห้องนั่งเล่น, ห้องครัว

          แสง : ชอบแดดจัด

          การรดน้ำ : วันละ 1 ครั้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 5-45 องศาเซลเซียส

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy ) ช่วยดูดซับและกำจัดสารเบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน ไซลีน และโทลูอีน ออกจากอากาศได้ เป็นไม้เถาเลื้อย ใบเป็นแฉกคล้ายใบตำลึง มีหลากสี หลายพันธุ์ ปรับตัวได้ดี ดูแลไม่ยาก ได้รับความนิยมในการนำไปปลูกเพื่อแต่งบ้านในแถบยุโรป จับมาใส่กระถางวางบนชั้นให้ใบค่อย ๆ ห้อยลงมาก็สวยไปอีกแบบ

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม เช่น ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น

          สภาพแสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์

          การรดน้ำ : 3 วันต่อครั้ง หรือรดเมื่อดินแห้งสนิท

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 5-30 องศาเซลเซียส

ลิ้นมังกร (Snake plant ) พืชในร่มที่แข็งแรงและสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ต้องดูแลเยอะ มีอายุอยู่ได้หลายปี สามารถกำจัดสารพิษที่ระเหยอยู่ในอากาศได้อย่างดี และยังช่วยผลิตออกซิเจนที่บริสุทธิ์ในเวลากลางคืนด้วย ใบเป็นรูปหอก แข็ง หนา ตั้งตรง มีลวดลาย สีเขียวเข้มอมเทา พร้อมแถบสีเขียวอ่อนพาด หลายคนจึงนิยมนำมาประดับตกแต่งห้อง

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม เช่น ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ

          แสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์

          การรดน้ำ : วันละ 1 ครั้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 5-45 องศาเซลเซียส

เยอบีรา (Gerbera Daisy ) ช่วยดูดซึมสารพิษในอากาศและผลิตออกซิเจนในระดับสูงตอนกลางคืน เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือผู้ที่มีอาการหายใจผิดปกติ เป็นไม้ดอกที่นิยมนำมาประดับตกแต่งสวน แต่ดอกที่บานไม่ทนนาน ร่วงเร็ว จึงดูแลรักษาค่อนข้างยาก

         พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น

          แสง : ใต้ร่มเงา, แสงแดดรำไร

          การรดน้ำ: 2-3 วันต่อครั้ง หรือรดเมื่อดินแห้งสนิท

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 15-25 องศาเซลเซียส

พลูด่าง (Money Plant ) สามารถกำจัดสารเบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน และโทลูอีน ที่อยู่ในอากาศได้ ปลูกง่าย ตายยาก เหมาะปลูกในอาคารหรือที่อยู่อาศัย มีข้อควรระวังเล็กน้อย คือ ใบเป็นพิษต่อเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง หากมีสัตว์เลี้ยงต้องปลูกให้สูงขึ้นสักนิดนะคะ

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม ที่ไหนก็ได้ แต่ให้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

          แสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์

          การรดน้ำ : 3 วันต่อครั้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 15-45 องศาเซลเซียส

แก้วกาญจนา อโกลนีมา หรือเขียวหมื่นปี (Aglaonema หรือ Chinese Evergreen ช่วยกำจัดเบนซีนและฟอร์มาลดีไฮด์ รวมถึงสร้างออกซิเจนในปริมาณมากด้วย มีพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมากกว่า 100 สายพันธุ์ สีสันฉูดฉาดสวยงาม แต่งบ้านได้หลายมุม แต่ผลัดใบง่าย ต้องดูแลเป็นพิเศษ

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น

          สภาพแสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์

          การรดน้ำ : วันละ 1 ครั้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 15-30 องศาเซลเซียส

เศรษฐีเรือนใน (Spider plant)  สามารถกำจัดสาร VOC หรือสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่มักพบในสารประกอบหรือสารทำละลายในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงคาร์บอนมอนอกไซด์และไซลีนด้วย เป็นพุ่มใบเรียวสีเขียว-เหลือง โค้งงอแผ่ขยายลงด้านล่าง ปลูกในกระถางเล็ก ๆ ก็น่ารักน่าเอ็นดู

         พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น

          สภาพแสง : ใต้ร่มเงา, แสงประดิษฐ์

          การรดน้ำ : 3 วันต่อครั้ง หรือรดเมื่อดินแห้งสนิท

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 15-30 องศาเซลเซียส

ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)  พืชที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล นำมาใช้รักษาโรคตั้งแต่สมัยโบราณ ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และมีประสิทธิภาพในการกำจัดเบนซีนและฟอร์มาลดีไฮด์ เนื้อข้างในยังสามารถนำไปทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มได้หลายเมนูด้วย

          พื้นที่และตำแหน่งที่ควรปลูก : ในร่ม ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ริมระเบียงที่รับแสง

          สภาพแสง : ใต้ร่มเงา, แสงแดดรำไร

          การรดน้ำ : 2 วันต่อครั้ง หรือรดเมื่อหน้าดินเริ่มแห้ง

          อุณหภูมิที่เติบโตดี : 15-45 องศาเซลเซียส

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2126946

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1874089

https://ntrs.nasa.gov/citations/19930073077

https://www.mashrita.com/29-best-air-purifying-plants-nasa-clean-air-study/